รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว - ตอนที่ 565
บทที่ 565 คนจากแดนสังสารวัฏมาหรือ? ข้าจะไปเดี๋ยวนี้!
กฎระเบียบดึกดำบรรพ์เข้าร่าง สำเร็จร่างระเบียบ นี่คือต้นทุนแห่งความไร้เทียมทาน รู้เลยว่า หลังพวกหลิงอินสำเร็จร่างระเบียบจนสมบูรณ์เมื่อใด พวกเขาย่อมไร้เทียมทาน กวาดล้างได้ทุกสิ่ง!
แน่นอนว่า ร่างระเบียบของพวกเขาในยามนี้ยังมิสู้จะสมบูรณ์เท่าใด ไม่ทันได้ผสานเป็นหนึ่งกับกายเนื้อพวกเขาอย่างสมบูรณ์ ยังต้องใช้เวลาอยู่
หลี่จิ่วเต้าซดราเม็งไปพลาง สนทนาสัพเพเหระกับพวกหลิงอินไปพลาง จบอาหารค่ำมื้อนี้ไปท่ามกลางเสียงหัวเราะ
สุดท้าย หลิงอิน เสี่ยวหยา และพี่ชายเสี่ยวหยาบอกลา พร้อมกลับออกไป
หลังกลับถึงบ้านหลิงอิน พี่ชายเสี่ยวหยาหยิบหนังสือที่นำกลับมาจากบ้านคุณชายออกมาอย่างทนรอมิไหว พลิกอ่านเนื้อหา
หนังสือแต่ละเล่มล้วนน่าทึ่งจนสะท้านโลกันตร์ พี่ชายเสี่ยวหยาพลิกอ่านไปมา จนกลายเป็นเหมือนตัวเอกในนิทาน เข้ามาอยู่ในโลกหนังสืออันกว้างใหญ่ไพศาล เดินเหินอยู่ภายในนั้น!
เล่มแล้วเล่มเล่า แต่ละเล่มล้วนมีโลกไพศาลที่ต่างออกไป พี่ชายเสี่ยวหยาก้าวเดินในโลกหนังสือที่แตกต่างกันไป สัมผัสประสบการณ์ ‘ชีวิต’ ที่แตกต่างกันไป จิตใจของเขา หทัยเต๋าของเขา ล้วนยกระดับอย่างรวดเร็ว!
เขาสัมผัสได้ถึงการบรรลุยกระดับของหทัยเต๋า จากขอบเขตสูงสุดไปยังขอบเขตจักรพรรดิ แล้วจากขอบเขตจักรพรรดิไปยังขอบเขตเทียนตี้ บรรลุไวยิ่ง จนท้ายที่สุด เขารู้สึกเหมือนตัวเองมี ‘หทัยเซียน’ แล้วในตอนนี้!
นี่คือระดับจิตใจอันเหนือกว่าขอบเขตเทียนตี้ เขาตรัสรู้เต๋าได้ในพริบตา เข้าสู่สภาวะที่สูงยิ่งขึ้น วิชาอภินิหารซับซ้อนล้ำลึกทั้งหลาย ต่างง่ายดายขึ้นเมื่ออยู่ในสภาวะนี้ มิได้เหลือความยากแม้แต่น้อย!
แม้กระทั่งวิชาเทียนตี้ก็เช่นกัน ง่ายลงในพริบตา!
เขาเคยฝึกฝนวิชาเทียนตี้อยู่แขนงหนึ่ง ทว่าฝึกไม่ถึงช่วงปลาย เพราะยากลำบากเกินไป เขาไม่อาจเข้าใจรู้แจ้งได้
บัดนี้ เขาหวนนึกถึงวิชาเทียนตี้แขนงนั้น เหลือความยากอยู่ที่ไหน เขาจับใจความสำคัญของปรมัตถ์ได้อย่างง่ายดาย ง่ายเสียจนเสมือนเป็นการกินข้าวดื่มน้ำเท่านั้น
เขารู้สึกว่าระดับจิตใจเช่นนี้เป็นไปได้ว่าจะเป็นจิตตานุภาพแห่งเซียน!
‘ขอบคุณคุณชาย!’
เขากล่าวขอบคุณคุณชายในใจอย่างขึงขัง
หลังได้สัมผัสประสบการณ์ของชีวิตในหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่า เขารู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง หวนรำลึกถึงประสบการณ์เลวร้ายมืดมนที่ถูกความพิศวงเข้าพัวพัน ความรู้สึกของเขาเรียบนิ่งดั่งน้ำนิ่ง ปราศจากความสั่นไหว มิได้ถลำลึกอยู่ในนั้นจนไม่อาจก้าวข้ามพ้นมา
สำหรับเขา นี่คือบุญคุณใหญ่หลวง!
หากไม่อาจก้าวออกจากความทรงจำเลวร้ายมืดมนนั้น เป็นไปได้ว่าเขาอาจถลำลึกลงไปเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดกลายเป็นอย่างไร เขาเองยังไม่อาจแน่ใจ ไม่อาจควบคุม
เขาขอบคุณคุณชายเหลือเกิน ช่วยให้เขาบอกลาประสบการณ์เลวร้ายมืดมนนั้นได้อย่างสิ้นเชิง ก้าวหน้าสู่แสงสว่างได้อย่างแท้จริง!
…
ภายในจักรวาลอันมืดมิด ‘ศพ’ ยับเยินร่างพรุนศพหนึ่งลอยละล่อง นางมีบาดแผลเต็มกาย เรือนร่างผิดรูป โลหิตสกปรกเปรอะเปื้อนอยู่เต็มหน้า
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้น โลหิตเหล่านั้นก็ยากจะปกปิดความงามของนาง ดูออกว่านางมีโฉมสะคราญ พริ้มเพราไม่เป็นรองผู้ใด
ทันใดนั้น ขนตายาวเป็นแพของนางกระดิก จากนั้น ลำแสงเจิดจ้ามากมายพวยพุ่งออกจากทั่วร่าง ส่องสว่างไปทั้งจักรวาล!
นางมิใช่ ‘ศพ’ นางยังมีชีวิตอยู่!
จากนั้น พลันเห็นว่าตัวนางมีปราณเซียนแผ่ซ่าน ปราณชีวิตล้นหลามน่าทึ่งขยายออกไป ส่วนที่ขาดหายไปจากเรือนร่างของนางเริ่มมีเลือดเนื้อใหม่งอกออกมาอย่างรวดเร็วโดยมีแสงเซียนห้อมล้อม ขาวนวลเนียนผ่องยิ่งกว่าผิวเด็กแรกเกิดเสียอีก!
นางลืมตาขึ้น ประกายเซียนสองลำทะลุออกไปในอวกาศ พลังปราณของนางน่าประหวั่นพรั่นพรึงเป็นที่สุด ดวงดาวทั่วทั้งจักรวาลสั่นไหวอย่างรุนแรงตามการขึ้นลงของลมหายใจนาง!
“มิใช่ฝัน มิใช่ภาพมายา ทั้งหมดคือเรื่องจริงหรือนี่!”
ริมฝีปากแดงชาดของนางเปิดออกเล็กน้อย จากที่เคยมีสายตาสับสน ก็ค่อย ๆ เด็ดเดี่ยวขึ้น
สุดท้าย นางลุกยืน แสงเซียนเวียนว่ายรายล้อม สูงส่งบริสุทธิ์
นางคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า ภาพที่เคยเห็นนอกขอบแดนภพเซียนจะเป็นความจริง!
เด็กหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งดูภายนอก ‘ธรรมดาดาษดื่น’ แท้จริงแล้ว มิรู้ว่าน่ากลัวเพียงใดเดินผ่านชั้นบรรยากาศด้านบน พลังสยดสยองน่ากลัวรอบนอกเขตแดนภพเซียนล้วนตื่นกลัวจนหดหนีกลับไปในทันที!
เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อสำหรับนางอย่างยิ่ง จนนางเคยเข้าใจว่าเป็นเพียงความฝัน เป็นภาพมายาที่นางสร้างขึ้นเพราะปรารถนาจะอยู่รอดภายใต้พลังอันสยดสยองน่ากลัวนั้น
บัดนี้ นางได้สติสมบูรณ์ ตระหนักถึงทุกอย่าง ภาพที่นางได้เห็นมิใช่ความฝัน มิใช่ภาพมายา หากแต่เกิดขึ้นจริง ๆ!
เด็กหนุ่มผู้นั้นมีตัวตนอยู่จริง ๆ นางก็ยังรอดอยู่จริง ๆ เดินออกจากพลังอันสยดสยองน่ากลัวนั้นได้แล้ว!
“คนผู้นั้นเป็นใครกันแน่!”
นางยังนึกหวาดผวาอยู่ไม่น้อย จนบัดนี้เมื่อนึกย้อนกลับไป หนังศีรษะยังชาวาบ น่ากลัวเกินไปแล้ว เด็กหนุ่มผู้นั้นขอบเขตพลังอยู่ระดับใดกัน!?
นางมิกล้าจินตนาการ และจินตนาการไม่ออก
นางก็คือจักรพรรดินีอนันตกาล หลังจากล่องลอยอยู่ในอวกาศมาสักพัก ก็ฟื้นสภาพจากอาการบาดเจ็บสาหัส
นี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของนาง แม้ว่าบาดเจ็บหนักหนา จนจิตสำนึกตกสู่ห้วงนิทรา กระนั้นยังมีพลังคอยโคจรอยู่ในร่างกาย ซ่อมแซมส่วนสึกหรอด้วยตัวเอง
หลังจากผ่านไปแล้วเนิ่นนาน นางถึงสงบจิตใจลงได้
“ไปเถิด ไปทำภารกิจของข้าให้สำเร็จ กอบกู้อิสรภาพของข้า มุ่งบรรลุสู่ขอบเขตสูงขึ้น!”
น้ำเสียงของนางแน่วแน่ ย่างกรายคราเดียวไม่รู้ก้าวพ้นดวงดาวไปตั้งเท่าไร นางต้องไปตามหาซี นำสิ่งที่ตระกูลเซียวต้องการกลับมา เพื่อแลกกับอิสรภาพของนาง
หากไร้ซึ่งอิสรภาพ อยู่ใต้บัญชาผู้อื่น นางไม่มีทางบรรลุสู่ขอบเขตสูงขึ้น และไม่มีทางคืนชีพอาจารย์ของนางกลับมา
ดอกไม้ยังอยู่ ทว่าผู้ที่คอยเด็ดบุปผาเป็นเพื่อนนางกลับไม่อยู่แล้ว…
นางต้องเปลี่ยนแปลงตอนจบนี้!
นางต้องการให้อยู่ทั้งคน ทั้งบุปผา!
…
ภายในจักรวาลกว้างใหญ่ไพศาล ท่ามกลางอาณาจักรมากมายซึ่งไม่เป็นที่รู้จัก ทว่าเก่าแก่ทรงพลังอย่างยิ่งยวด คึกคักไม่น้อยหน้ากันแม้แต่น้อย และเดือดดาลไม่น้อยหน้ากันแม้แต่น้อย
“ถูกสิ่งมีชีวิตท้องถิ่นกำราบไว้ได้รึ ซ้ำยังเป็นการกำราบแบบบดขยี้ น่าขายหน้าเกินไปแล้ว!”
“หากเป็นสิ่งมีชีวิตท้องถิ่นในยุคโบราณยังไม่เท่าใด สิ่งมีชีวิตท้องถิ่นในยุคสมัยนี้มีความสามารถที่ไหน ต้อยต่ำยิ่งกว่ามดปลวกด้วยซ้ำ ยังกล้าร่างกฎ จำกัดพวกเราอีกหรือ!?”
“สิ่งมีชีวิตท้องถิ่นอันต่ำต้อยไร้ความเจริญริอ่านเป็นปรปักษ์กับเรา คิดกระไรอยู่! พวกเขาต้องหลั่งเลือดแห่งความสำนึกเสียใจ!”
…
เสียงเยียบเย็นดังออกจากอาณาจักรเก่าแก่เหล่านั้น พวกเขาพากันออกเดินทาง ก้าวสู่เส้นทางที่เชื่อมตรงกับอาณาจักรนั้น มุ่งหน้าไปที่นั่น
ฐานทัพของพวกเขาในอาณาจักรนั้นถูกพวกตงฟางเวิ่นบุกทะลวงเข้าไป ต่อมาถูกเมิ่งจีผนึกเส้นทาง พวกเขารู้สึกถึงการท้าทาย แต่ละคนจิตสังหารรุนแรงไม่แพ้กัน
ไปเยือนครานี้ พวกเขาย่อมไม่ยอมจบอย่างสันติ จักก่อการเข่นฆ่าห้ำหั่นให้ได้
“ถูกคนทรยศคนหนึ่งโจมตีจนไม่อาจขัดขืน พวกเจ้าทำหน้าที่กันอย่างไร? อย่างที่คิด สิ่งแวดล้อมสงบสุขรังแต่จะทำให้พวกเจ้าไม่ได้เรื่องขึ้นเรื่อย ๆ…”
เสียงแค่นจมูกเย็น ๆ ดังออกจากอาณาจักรฮวงเฉวียน เจ้าแห่งอาณาจักรนั้นไม่พอใจเป็นอย่างมาก
พวกเขาเป็นใครกัน?
พวกเขาคือเพชรฆาตในรัตติกาล คือฝันร้ายของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรทั้งปวง สิ่งมีชีวิตที่พวกเขาหมายหัว มิมีตนใดรอด!
เอ่ยอย่างไม่เกินจริง พวกเขาคือนักล่าแห่งอาณาจักรทั้งปวง สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรทั้งปวงคือเหยื่อของพวกเขา!
และสมาชิกของพวกเขาในอาณาจักรนั้น กลับไร้น้ำยาถึงเพียงนี้ ถูกคนทรยศผู้หนึ่งฝ่าเข้าไปถึงฐานหลัก กวาดล้างข้อมูลไปนับคณา ซ้ำยังถูกสะกดเส้นทางอีกด้วย!
เจ้าแห่งอาณาจักรไม่พอใจอย่างยิ่ง!
“บุกเข้าไป ศักดิ์ศรีของอาณาจักรฮวงเฉวียนไม่ยอมให้ผู้ใดหยามเหยียด!”
เจ้าแห่งอาณาจักรแค่นเสียงเย็น นำทัพด้วยตนเอง กรีธาสู่อาณาจักรนั้น
…
ผ่านไปอีกหลายวัน จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงนำกองกำลังที่ระดับสูงแห่งแดนสังสารวัฏเตรียมไว้สำหรับเขาไปตามเส้นทางสังสารวัฏ และมาถึงจุดสิ้นสุด
“หืม เกิดอะไรขึ้น?”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงขมวดคิ้ว พวกเขาประสบปัญหา ทางเข้าเส้นทางด้านนี้ถูกพลังบางอย่างผนึกไว้!
นี่มันเรื่องอะไรกัน
ผู้ใดผนึกเส้นทางสังสารวัฏเส้นนี้กัน?
ก่อนนี้เขาไม่รู้มาก่อนว่าเส้นทางสังสารวัฏถูกผนึก และไม่รู้ว่าเส้นทางเชื่อมโลกภายนอกในอาณาจักรนั้นถูกผนึกไปแล้วทั้งสิ้น
ก่อนหน้านี้ แดนสังสารวัฏทำศึกกับอาณาจักรเก้าแดนต้องห้ามอยู่ตลอด รับข่าวสารไม่ทันท่วงที มีเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้นโดยพวกเขาไม่รู้
“พลังผนึกนี้ไม่ธรรมดา กระนั้นมิได้เกินกำลังข้า!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงลงมือ เรียกกระดานหมากล้อมออกมา สำแดงตาเดินหมากล้อมที่คุณชายเคยชี้แนะ ใช้พลังตาเดินในการทลายผนึกนี้
เขาต้องไปพบคุณชาย ไฉนเลยจะยอมให้ผนึกนี้เข้ามาขวาง
แต่ว่ากันตามตรง พลังผนึกนี้สุดยอดยิ่งนัก หลังเขาสำแดงพลังตาเดินออกมาแล้ว กลับไม่อาจทลายผนึกนี้ในทันที
‘จนป่านนี้ ในอาณาจักรนั้นยังมียอดฝีมือระดับนี้อยู่อีกหรือ’ เขาคิดในใจอย่างอดไม่ได้
ด้วยระดับฝีมือวิถีหมากล้อมของเขาในยามนี้ เมื่อได้สำแดงตาเดินที่คุณชายชี้แนะ แม้กระทั่งเทียนตี้ยังมิใช่คู่ต่อสู้ เขาไม่อาจทลายผนึกนี้ในทันที เป็นที่ตะลึงสำหรับเขาอย่างยิ่ง
สิ่งแวดล้อมในอาณาจักรนั้นเลวร้ายปานนี้ เหตุใดถึงยังมียอดฝีมือระดับนี้ถือกำเนิดขึ้นมาได้?
“หรือจะเกี่ยวข้องกับคุณชาย!”
เขายั้งมือในบัดดล เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นในใจ
สิ่งแวดล้อมเลวร้ายเยี่ยงนี้ โดยสถานการณ์ทั่วไป ยากจะมียอดฝีมือระดับนี้ถือกำเนิดขึ้น ทว่า คุณชายอยู่ในอาณาจักรนั้น เป็นไปได้ว่ายอดฝีมือระดับนี้เป็นผู้ที่คุณชายอบรมสั่งสอน
‘คงมิใช่ คุณชายรู้ว่าข้าอยู่ในแดนสังสารวัฏ ไม่จำเป็นต้องผนึกเส้นทางที่เชื่อมกับแดนสังสารวัฏ ถึงอย่างไร ข้าก็มียศมีบรรดาศักดิ์ในแดนสังสารวัฏ!’ เขาคิดในใจ
มีเขาคอยรับใช้คุณชายอยู่ที่แดนสังสารวัฏ การผนึกเส้นทางสังสารวัฏเส้นนี้หาได้มีความจำเป็นไม่ มิหนำซ้ำ แม้ว่าผนึกนี้จะทรงพลัง กระนั้นก็มิได้เท่าไร ไม่เป็นประโยชน์มากนัก
อย่าว่าแต่สมาชิกระดับสูงในแดนสังสารวัฏเลย แม้แต่เขาในตอนนี้ยังสามารถทลายผนึกนี้ได้ ผนึกนี้ออกจะปวกเปียกไปหน่อย เขารู้สึกว่าคงมิได้เกี่ยวข้องกับคุณชาย
“คงเป็นฝีมือสิ่งมีชีวิตจากเก้าแดนต้องห้าม!”
ดวงตาของเขาลุกวาว นึกถึงเก้าแดนต้องห้าม
เบื้องหลังเก้าแดนต้องห้ามคืออาณาจักรเก้าแดนต้องห้าม เป็นไปได้ว่าอาณาจักรต้องห้ามออกคำสั่งต่อเก้าแดนต้องห้าม สั่งให้เก้าแดนต้องห้ามผนึกเส้นทางสังสารวัฏเส้นนี้ เพื่อป้องกันมิให้สมาชิกแดนสังสารวัฏเข้ามา
ความเป็นไปได้นี้สูงนัก!
หากคุณชายต้องการผนึกเส้นทางสังสารวัฏ ผนึกนั้นย่อมมิอาจทลาย เพราะอย่างนั้น เขาจึงยิ่งมั่นใจว่าเป็นฝีมือเก้าแดนต้องห้าม
คิดมาถึงนี่ เขาลงมือต่อ เข้าจู่โจมด้วยพลังตาเดินหมากล้อม
แม้ว่าผนึกนั้นทรงพลัง ทว่าไม่อาจกีดขวางเขาได้ ใช้เวลาเพียงไม่นาน ผนึกนี้ก็ถูกเขาทลายออก
ขณะเดียวกัน เมิ่งจีรับรู้ได้ในทันทีว่าด้านแดนสังสารวัฏมีบางอย่างผิดปกติ
เขารีบติดต่อตงฟางเวิ่น และบอกเล่าเหตุการณ์นี้กับตงฟางเวิ่น
“คนจากแดนสังสารวัฏมาหรือ? ดี ข้าจะไปเดี๋ยวนี้!”
ตงฟางเวิ่นตอบ ก่อนจะรุดหน้ามาอย่างรวดเร็ว