ชาวนาตัวน้อยดีเลิศ - ตอนที่ 296
“ฮ่าๆๆ…..นายต้องการรางวัลอะไรเหรอ? ดูแววตาของเด็กอย่างนายแล้ว ทำไมพี่สาวถึงรู้สึกว่านายมีเจตนาร้ายนิดหน่อย?”
ตาสวยของเกาลี่ลี่กลอกไปมา น้ำพุที่อยู่ในดวงตานั้นมีคลื่นระลอกอย่างต่อเนื่อง ราวกับว่าน้ำที่สามารถท่วมได้ตลอดเวลา มองจนจ้าวเสี่ยวกังร้อนเป็นไฟ
“ฮ่าๆๆ รางวัลที่ผมต้องการอันที่จริงแล้วง่ายอย่างมาก พี่สาวคนสวยออกมาส่งผมก็พอแล้ว”
เมื่อได้ยินคำเรียกร้องของจ้าวเสี่ยวกัง ดวงตาที่สวยงามของเกาลี่ลี่เคลื่อนไหว หัวเราะและลุกขึ้นยืนพูด :”ได้เลย ฉันก็คิดสะว่าเรื่องใหญ่อะไรสะอีก”
ระหว่างที่พูด เกาลี่ลี่เดินออกมาและบิดเอวไปมา
มองดูขาเรียวยาวคู่นั้นที่สวมอยู่ในถุงน่องสีดำ จ้าวเสี่ยวกังแทบจะทนไม่ไหวเอื้อมมือออกไปจับแล้ว
เดินมาถึงพื้นต่างระดับ จ้าวเสี่ยวกังมองดูเกาลี่ลี่ที่อยู่ด้านข้างของตัวเอง ภายในใจอดไม่ได้ที่จะเคลื่อนไหว มีความคิดที่กล้าหาญหนึ่งโผล่ออกมา
“พอแล้ว ส่งถึงตรงนี้แหละ พี่สาวคนสวยในเมื่อคุณดีกับผมขนาดนี้ ผมตัดสินใจมอบของขวัญบางอย่างให้พี่สาวคนสวยที่ไม่มีวันลืมตลอดชีวิต”
คำพูดอย่างกะทันหันของจ้าวเสี่ยวกังกระตุ้นความอยากรู้ของเกาลี่ลี่
“หืม? ของขวัญอะไรเหรอ? เอาออกมาให้ฉันดูหน่อยสิ”
หลังจากพูดจบ เกาลี่ลี่อดไม่ได้ที่จะมองตรงไปที่เป้ากางเกงของจ้าวเสี่ยวกังโดยตรง สิ่งเดียวที่ไม่สามารถลืมได้เลยตลอดชีวิตภายในใจของเธอเกรงว่าคงมีแค่ไอ้นั่นของจ้าวเสี่ยวกังแล้ว เพราะว่าในชีวิตนี้ของเธอไม่เคยเห็นไอ้นั่นของใครดีกว่าของจ้าวเสี่ยวกังแล้ว
“พี่สาวคนสวย คุณช่วยหลับตาก่อน ตอนที่ผมให้คุณลืมตาคุณค่อยลืมตานะ โอเคไหม?”
“ได้สิ พี่สาวอยากจะรู้นักว่าท้ายที่สุดแล้วของขวัญที่นายมอบให้คืออะไร”
หลังจากพูดจบ เกาลี่ลี่หลับตาโดยตรง รออย่างเงียบๆ
เมื่อจ้าวเสี่ยวกังเห็นว่าเกาลี่ลี่หลับตาแล้ว ภายในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น เขารู้ว่าการทำเช่นนี้อาจทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ แต่ว่าทั้งหมดนี้ล้วนแล้วถ้าหากคุณไม่กล้าเสี่ยงก็จะไม่ได้มันมาครองไม่ใช่เหรอ? ถ้าหากเกาลี่ลี่ไม่ชอบเขา ต่อให้เขาพยายามมากแค่ไหนมันก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี แต่ว่าถ้าหากเกาลี่ลี่ชอบเขาจริงๆ อย่างนั้นเขาลองเสี่ยงสักหน่อย บางทีอีกฝ่ายอาจจะมีความสุขก็ได้
มองดูใบหน้ารูปไข่ที่สวยงามนั้น สีลิปสติกเนื้อบางเบาเปล่งประกายแวววาวที่เย้ายวนใจอยู่ภายใต้แสงแดด
จ้าวเสี่ยวกังไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป จูบลงไปหนึ่งทีโดยตรง
เกาลี่ลี่ลืมตาขึ้นในทันที เธอคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำว่าจ้าวเสี่ยวกังจะกล้าขนาดนี้ แต่ว่าลมหายใจที่เร่าร้อนนั้น กลิ่นหอมที่น่าดม ความรู้สึกหุนหันพลันแล่นที่แผ่ออกมาจากร่างกายของหนุ่มเยาว์วัย ทำให้เกาลี่ลี่อดไม่ได้ที่จะนึกถึงรักครั้งแรกของเธอ ถ้าหา……ถ้าหากตอนนั้นรักแรกของเธอมีความกล้าเหมือนกับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ บางทีจุดจบอาจจะไม่เหมือนกับตอนนี้ก็ได้มั้ง? คิดไปเรื่อยๆ มือทั้งคู่ของเกาลี่ลี่อดไม่ได้ที่จะกอดคอของจ้าวเสี่ยวกัง ในขณะเดียวกันก็ค่อยๆเปิดริมฝีปากสีชมพูขึ้นช้าๆ
จ้าวเสี่ยวกังหลับตาลง ไม่ได้มองความสวยของคนที่อยู่ตรงหน้า เดิมทีเขาเพียงต้องการจูบอย่างง่ายๆหนึ่งทีและถอยอย่างรวดเร็ว
คิดไม่ถึงเลยทันทีที่จูบเข้าไป ความหวานสดชื่นที่น่าดึงดูดใจทำให้เขาอยากจะแงะฟันของอีกฝ่ายให้เปิดออก ยิ่งทำให้เขาคิดไม่ถึงเลยก็คือหัวใจของทั้งสองคนตรงกัน เขายังไม่ทันได้ใช้ความพยายามเพื่อเปิดฟันของอีกฝ่ายออก แต่อีกฝ่ายกลับให้ความร่วมมืออย่างมากเปิดปากเชอรี่ตัวน้อยแล้วก็ตอบสนองกลับอย่างหนัก
ฉากที่มีความตื่นเต้นเช่นกันทำให้จ้าวเสี่ยวกังมีความรู้สึกขึ้นมาในทันที ในเวลาเดียวกัน มือใหญ่คู่นั้นก็ถูกวางลงบนเอวเรียวของเกาลี่ลี่โดยตรง
ทั้งสองคนตัวแนบเข้าด้วยกัน สูดดมรสชาติของกันและกัน ราวกับว่าเป็นเถาวัลย์สองต้นที่พันเข้าด้วยกัน ปีนป่ายกันและกัน
ผ่านไปไม่กี่นาที เกาลี่ลี่ผลักจ้าวเสี่ยวกังออก ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากดำเนินต่อ แต่ว่ากลางวันแสกๆแบบนี้ถูกคนพบเข้ามันจะไม่ดีเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะเธอยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานคนหนึ่ง ไม่ว่าจะพูดยังไงท้ายที่สุดแล้วตอนนี้เธอยังไม่ได้หย่าร้าง
เมื่อจ้าวเสี่ยวกังเห็นเกาลี่ลี่หันศีรษะอย่างเขินอายและวิ่งหนีไป ชัดปากเล็กน้อย หัวเราะและพูด :”พี่สาวคนสวย หวานมากเลย ผมกินจนเสพติดแล้วควรทำยังไงดี?”
เมื่อได้ยินคำพูดที่อยู่ด้านหลังของจ้าวเสี่ยวกัง เกาลี่ลี่กระทืบเท้าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ท่าทางที่มีความน่ารักนั้นมองไม่เห็นเลยว่าจะเป็นหญิงสาววัยสามสิบที่จะแสดงออกมา ราวกับว่าเป็นหญิงสาวในวัยสิบเจ็ดสิบแปดเท่านั้น
“ฮึ จ้าวเสี่ยวกัง ฉันจะจำนายเอาไว้ นายมันเป็นคนหลอกลวง หลอกลวงความรู้สึกของพี่สาว”
เมื่อเวลาที่เกาลี่ลี่หันหัวไปมองจ้าวเสี่ยวกัง อดไม่ได้ที่จะมองไปตรงนั้นของจ้าวเสี่ยวกังโดยไม่ได้ตั้งใจ ถ้าหากไม่ใช่ว่าเมื่อกี้ถูกตรงนั้นชนโดนเธอคงยังไม่ออกจากภวังค์ อาจจะยังจมอยู่ในความรู้สึกนั้นแน่นอน
“พี่สาวคนสวย ความรู้สึกที่ผมมีต่อคุณมันเป็นของจริงนะ หรือว่าคุณรู้สึกไม่ได้เหรอ? สิ่งที่ผมสัญญากับคุณผมจะต้องทำให้ได้อย่างแน่นอน หวังว่าถึงเวลานั้นพี่สาวคนสวยห้ามกลับคำพูดเด็ดขาดนะ”
หลังจากพูดจบ จ้าวเสี่ยวกังวิ่งลงจากพื้นต่างระดับและสตาร์ทรถของเขาและขับตรงไปที่หมู่บ้านบางจื่อ เขาไม่มีการพัวพันอีกต่อไป เขารู้ว่าเรื่องบางอย่างถ้าหากยิ่งพัวพันก็ยิ่งต้องเสียมันไป ความรู้สึกมันก็เป็นแบบนี้แหละ ชอบไม่ใช่ความชอบของคนๆเดียว แต่เป็นความชอบของซึ่งกันและกัน
เมื่อได้ยินเสียงของรถไถเดินตามขับออกไปไกลแล้ว เกาลี่ลี่ไม่สามารถควบคุมหัวใจเต้นรัวของภายในใจได้อีกต่อไป วิ่งลงมาจากพื้นต่างระดับโดยตรงและมองดูร่างนั้นจากไป ในเวลานี้หัวใจของเธอสั่นไหวไปหมด เธอไม่รู้ว่าการเลือกในครั้งนี้ของเธอมันถูกต้องหรือไม่ ไม่รู้ว่าคำพูดของอีกฝ่ายจริงหรือเท็จ
ถ้าหากตัวเองหย่าร้างกับสามีของตัวเองจริงๆ เธอไม่ต้องการมีความสัมพันธ์ใหม่อย่างรวดเร็ว แต่ว่านับตั้งแต่วินาทีที่เห็นจ้าวเสี่ยวกัง ความคิดในสมองตั้งแต่แรกกลับถูกลืมทิ้งไปทั้งหมด
เธอมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะหย่าเป็นครั้งแรก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอไม่อยากจะพัวพันกับสามีของตัวเองอีกต่อไป
ตอนที่จ้าวเสี่ยวกังขับรถไถเดินตามมาถึงหมู่บ้านก็เกือบจะสิบโมงกว่าแล้ว สาเหตุหลักคือรถไถเดินตามเครื่องดับระหว่างทางไปเอง เขาหาสาเหตุเป็นเวลานานกว่าจะหาเจอว่าเป็นเพราะมีอากาสอยู่ในท่อน้ำมัน
หลังจากกลับมาถึงหมู่บ้าน สิ่งแรกที่จ้าวเสี่ยวกังทำคือเอาเงินห้าหมื่นหยวนไปหาจ้าวหวู่ ในครั้งนี้เขาเตรียมจะทำเรื่องใหญ่ ถ้าหากเรื่องนี้ทำสำเร็จ อย่างนั้นเส้นทางการพัฒนาของเขาจะราบรื่นขึ้นมากในอนาคต
เมื่อเวลาที่มาถึงหน้าประตูบ้านของจ้าวหวู่ ก็เห็นโจวหรานฮวานั่งยองๆที่ประตูเก็บผักพอดี ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงเวลาที่เห็นโจวหรานฮวาภายในใจของจ้าวเสี่ยวกังรู้สึกรำคาญเล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงผู้หญิงคนนี้ยังเป็นเพื่อนสนิทกับอู๋ต้าเฉียว ในฐานะเป็นเพื่อนสนิทเห็นเพื่อนกำลังเจอปัญหากลับไม่ช่วย การกระทำแบบนี้ทำให้จ้าวเสี่ยวกังไม่เข้าใจอย่างมาก เขาไม่ต้องการที่จะเข้าใจต่อไป
“คุณป้า ลุงจ้าวอยู่บ้านไหม?”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ โจวหรานฮวาผงะ ต่อจากนั้นใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข
“เสี่ยวกังเองเหรอ ลุงจ้าวของนายเพิ่งไปที่คณะกรรมหมู่บ้าน นายหาเขามีเรื่องอะไรเหรอ?”
“อ้อ ไม่มีอะไร”
พูดจบ จ้าวเสี่ยวกังอุ้มเงินและไปที่คณะกรรมการหมู่บ้านเพื่อไปหาจ้าวหวู่ สำหรับโจวหรานฮวาเขาไม่อยากจะมีความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายแม้แต่นิดเดียวแล้ว
โจวหรานฮวาก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงด้านทัศนคติของจ้าวเสี่ยวกังได้อย่างชัดเจนเช่นกัน ภายในใจอดไม่ได้ที่จะเจ็บปวด น้ำตาซึม โชคดีที่เธอยังสามารถอดกลั้นเอาไว้ได้ เพียงแค่นึกถึงฉากที่มีความบ้าคลั่งตอนที่อยู่กับจ้าวเสี่ยวกังในถ้ำ ภายในใจของเธอเลือกที่จะละทิ้งมันไป